การผ่าตัดยกกระชับเป็นการผ่าตัดที่ต้องใช้ความชำนาญมากกว่าการผ่าตัดเสริมหน้าอกมาก ดังนั้นควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการยกกระชับในการให้บริการ เพื่อผลการผ่าตัดที่ออกมาสมบูรณ์ไม่มีอาการข้างเคียงเกิดขึ้น และก่อนทำการผ่าตัดต้องทำความเข้าใจกับแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเสียก่อนว่าจะต้องผ่าตัดแผลลักษณะใดในการยกกระชับ ซึ่งแผลที่ใช้ในการผ่าตัดยกกระชับมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ
1.การผ่าตัดแผลที่บริเวณรอบลานนม
2.การผ่าตัดแผลที่บริเวณรอบลานนมและแผลที่เป็นแนวตั้งจากบริเวณขอบล่างของลานนม ขึ้นมาจรดบริเวณฐานนม
3.การผ่าตัดแผลที่มีลักษณะคลายกับตัวทีคว่ำหรือคล้ายกับสมอเรือ
การผ่าตัดจะใช้แผลลักษณะใดก็ขึ้นอยู่กับลักษณะความหย่อยยานของเต้านมด้วย ซึ่งการยกกระชับที่ต้องการทำนั้นจำเป็นต้องมีการเสริมหน้าอกเทียมเข้าไปอีกหรือไม่ เพราะว่าในรายที่มีเนื้อนมที่ส่วนของเต้านมเนินอกน้อยมาก การผ่าตัดเพื่อยกกระชับจะไม่สามารถทำการยกกระชับให้เต้านมเต่งตึงได้ แต่ต้องทำการทำนมเข้าไปร่วมด้วย เต้านมจึงจะเต่งตึงสวยงาม และโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จะต้องเกิดขึ้นนอ้ยที่สุดด้วย เนื่องจากการผ่าตัดเพื่อยกกระชับเต้านมจะต้องมีการวางยาสลบในขณะที่ทำการผ่าตัด และหลังการผ่าตัดแพทย์จะทำการใส่สายระบายเลือดไว้ที่ส่วนในของเต้านมและติดไว้ประมาณ 24 ชั่วโมงจึงจะนำออกและทำการปิดแผล ผู้ป่วยสามารถที่จะกลับมาพักฟื้นที่บ้านและรับประทานยาปฏิชีวนะ ยาลดอาการบวมและยาแก้ปวด หลังจากผ่าตัด 5-10 วัน แพทย์จะทำการตรวจแผลอีกครั้งเพื่อดูความเรียบร้อยของแผลที่เกิดขึ้น และหลังจากนั้น 1 เดือนผู้ป่วยสามารถทำการออกกำลังกายเบา ๆ ได้ จนผ่านไป 3 เดือนร่างกายจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แม้ว่าการยกกระชับจะสามารถยกกระชับเต้านมได้แต่ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นเต้านมก็ย่อมที่จะมีโอกาสที่จะกลับมาหย่อนยานได้อีก ดังนั้นการเสริมขนาดของเต้านมจึงไม่ควรเสริมให้มีขนาดที่ใหญ่มากเกินไป และต้องใส่ชุดชั้นในเพื่อยกกระชับเต้านมอยู่ตลอดเวลา
การผ่าตัดเสริมหน้าอกหรือลดขนาดเต้านม
มีทั้งข้อดีและข้อควรระวังดังนั้นก่อนที่จะทำการผ่าตัดทุกครั้ง ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะการผ่าตัดทำนมที่ดีสามารถสร้างความมั่นใจและโอกาสทางสังคมให้มากได้เช่นกัน